[Review] Unknown 9: Awakening การล้างแค้นของสาวน้อยผู้มีพลังจากปลอกแขน...

Unknown 9: Awakening เกมแอ็คชั่นผจญภัยจาก Reflector Entertainment ผู้เล่นจะได้สวมบทบาทหญิงสาวผู้ครอบครองพิเศษ ซึ่งได้ Anya Chalotra นักแสดงสาวมาสวมบทบาท Haroona ที่ต้องออกเดินทางทำภารกิจเพื่อป้องกันไม่ให้ความลับของโลกที่ปกปิดไว้ตกอยู่ในมือผู้ที่ไม่คู่ควร

Unknown 9: Awakening

  • Release date: October 18 2024
  • Platforms: PlayStation 5, PlayStation 4, Xbox Series X/S, Xbox One, Microsoft Windows
  • Genres: Action-adventure game, Stealth game, Adventure
  • Developer: Reflector Entertainment
  • Publishers: BANDAI NAMCO Entertainment

Text by: Naima

ก่อนอื่นขอยืนยันครับว่า ผมเป็นคนที่ชอบเล่นเกมสไตล์สเตลซ์ ถ้าเรียกเท่ ๆ ก็คือแบบ เมทัลเกียร์ โซลิด หรือ Espionage Action แนว ๆ คือ หลบซ่อนเข้าไปกำจัดศัตรู บทสรุปของ MEGAXGAME หลายเกมที่ผมทำไปอย่าง Dishonor 12, Watch Dogs หรือ แอสแซสซิน ครีด ภาคแรก ๆ ก็การันตีได้ว่าผมเล่นเกมแนวนี้จริง ๆ ซึ่ง Unknown 9: Awakening ก็มีสไตล์แบบนี้ นั่นคือมีฉากให้หลบซ่อน เคลื่อนที่ไปตามพงหญ้า และอาศัยการกำจัดศัตรูด้วยพลังพิเศษ

เริ่มต้นจากตัวเอก Haroona น่าจะเป็นอินเดียนแดง ซึ่งมีพลังพิเศษที่เรียกว่า Fold เธอเดินทางตามอาจารย์ของเธอที่ชื่อว่า Reika โดยเธอร้องขอตามไปปฏิบัติการบางสิ่ง เรื่องราวตอนต้นเป็นการสอนใช้พลังต่าง ๆ การต่อสู้ การซ่อนตัว และจบลงตรงการตายของ Reika และเรื่องราวก็เริ่มต้นการต่อสู้ของ Haroona ในอีกสี่ปีต่อมา

อย่างที่บอกไปครับว่าตัวเกมมีพื้นฐานเป็นเกม Stealth Action จึงเน้นระบบ Detect ของศัตรู นั่นคือศัตรูจะมีระยะในการมองเห็นเรา ถ้าเห็นก็จะขึ้นเป็นสัญลักษณ์ รูปลูกตา ถ้าลูกตาเป็นสีแดงทั้งหมดคือเห็นเราเต็มที่ ก็จะรุกเข้ามาทันที แต่ถ้าหลบจนลูกตาหายไป พวกศัตรูก็จะกลับไปเดินลาดตระเวนอีกครั้ง

ในการหลบซ่อน หลัก ๆ เราจะมีพงหญ้าเป็นพื้นฐานในการหลบซ่อน และการเคลื่อนไหวในพงหญ้าจะไม่ถูกมองเห็น แต่ถ้าออกนอกพงหญ้า ศัตรูจะเอะใจและขึ้นเป็นเครื่องหมายตกใจ  ! ทันที แต่ก็แค่สงสัย หากมองเห็นเราก็จะขึ้นเป็นดวงตาทันที ถ้าเราหลบทันก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น เกมในระดับยาก ก็จะขึ้นเร็วกว่าระดับนอร์มอล

ตัวเอกเองก็มีความสามารถพิเศษ ซึ่งผมมองว่าความสามารถนี้คล้ายกับเกม Dishonor มาก ๆ มีความสามารถหลัก ๆ 3 แบบคือ ความสามารถในการต่อสู้ ความสามารถในการใช้พลัง และความสามารถในการหลบซ่อน ผมว่าเหมือนมาก ๆ โดยเฉพาะความสามารถในการควบคุมศัตรู หรือติดตั้งกับดักในเครื่องจักร

แต่ที่ไม่เหมือนก็คือ Dishonor มีรูปแบบฉากเล่นที่เราสามารถเลือกแนวทางของตัวเองได้ แต่เกมนี้แทบจะเลือกไม่ได้ ในบางฉากต้องลุยโดยอาศัยการลอบฆ่าได้ยาก บอสก็ไม่มีทริกในการฆ่า แตกต่างจาก Dishonor ที่เราเลือกแนวทางได้ นี่เองทำให้ตัวเกมค่อนข้างแคบ ฉากที่บังคับต่อสู้ก็คือสู้กันตรง ๆ ฉากที่สเตลซ์ได้ ก็มีในฉากให้ผ่านทางเท่านั้น การเลือกอัพสกิลทรี จึงจำเป็นต้องเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้ เพราะบางทีก็บังคับให้ต่อสู้อย่างเลี่ยงไม่ได้ แตกต่างจาก Dishonor ที่แม้จะไม่อัพสกิลต่อสู้มาก็ผ่านได้

จุดบอดของเกมนี้นอกจากแนวทางการเล่นที่บังคับ คือสกิล และการควบคุมที่น่ารำคาญ การเคลื่อนไหว การหลบ การใช้ตาทิพย์ ล้วนแล้วแต่ทำให้เล่นแล้วอึดอัด การต่อสู้ที่ใช้ปุ่ม R ในการต่อยทำให้เมื่อยมือพอสมควรเลย

กราฟฟิคของเกม ต้องบอกว่าอาศัยประสิทธิภาพเครื่องกับเอนจิ้นล้วน ๆ ส่วนรายละเอียดเบาหวิวมาก ฟิสิกส์ในการเคลื่อนไหว น้ำหนักการปีนต่าง ๆ ไม่มีเลย เหมือนลอยไปตามผนัง ตัวละครชาวบ้านใส่มาทำไม หากไม่มีส่วนร่วม เราระเบิดตึก เผาทหาร ก็ไม่มีปฏิกิริยา ทำให้รู้สึกขัดใจมากเวลาเล่น

สรุปรวมแล้ว ต้องบอกว่าน่าผิดหวังพอสมควรกับเกมระดับนี้ เหมือนเกมใหญ่แต่ไปไม่สุด ในด้านกราฟฟิค เหมือนเกมแอ็คชั่นที่มีความน่าเล่น แต่เอาจริง ๆ ก็ไม่ได้ตามที่คาดหวัง เนื้อเรื่อง ก็ยังพยายามใส่ความโวคเข้ามา พยายามทำให้ตัวเอกหน้าตาไม่ดีเท่าตัวละครที่นำมาใช้เป็นต้นแบบอย่าง Anya Chalotra ตัวละคร เยนนิเฟอร์ แวนเกอร์เบิร์ก จาก เดอะวิชเชอร์ แถมใส่ชุดปิดบังมิดชิดสุด ๆ น่าเสียดายจริง ๆ เพราะตัวจริงเธอสวยและหุ่นดีมาก กลายเป็นจุดบอดของเกมไปอีกอย่าง เรียกว่าไม่มีอะไรดึงดูดสักอย่างครับ ถ้าผ่านได้ ควรผ่านไปก่อนเลย

ขอขอบคุณทาง Bandai Namco Entertainment สำหรับการสนับสนุนเกมสำหรับการรีวิว

▱▰▱▰ INFO ▱▰▱▰

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม FB Bandai Namco Entertainment
ข่าวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง FB MEGAXGAME Review

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น