[Review] Romancing Saga 2 Revenge of the Seven เกมคลาสสิค เพิ่มองค์ประกอบสู่ยุคใหม่

Romancing Saga 2 (RS2) ถูกนำกลับมาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ได้เคยมีการทำรีมาสเตอร์มาแล้วหนึ่งรอบ ซึ่งครั้งนั้นเป็นการอัพเกรดภาพและเนื้อหาบางส่วนเพิ่มเติมเข้ามา แต่การนำมารีเมคใหม่หนนี้คือ การเปลี่ยนรูปโฉมใหม่จนแทบจะกลายเป็นเกมใหม่ไปเลย พร้อมด้วยการปรับการเล่นให้เข้าถึงผู้เล่นใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี

Romancing Saga 2 Revenge of the Seven

  • Release date: October 18 2024
  • Platforms: PlayStation 5, PlayStation 4, Nintendo Switch, PC Steam
  • Genres: RPG
  • Publishers: Square Enix

Text by: Kai

เมื่อคนดีย์แปรสภาพไปเป็นคนร้าย!

เริ่มต้นกันที่เนื้อหาของเกมกล่าวถึง วีรบุรุษ 7 คนที่เคยช่วยปกป้องโลกเอาไว้เมื่อครั้งอดีต แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนมาถึงปัจจุบันอดีตฮีโร่ทั้งเจ็ดกลับกลายมาเป็นตัวการทำลายโลกซะอย่างงั้น ร้อนถึงจักรพรรดิ Leon และลูกหลานแห่ง Avalon ต้องออกมาปราบเหล่าตัวร้ายที่คุกคามโลกนี้ให้สิ้นซาก ในขณะเดียวกันก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากทวีปอื่นๆ ด้วยเช่นกัน ตัวผู้เล่นจึงจะได้ผจญภัยไปในดินแดนต่างๆ ที่มีสภาพแวดล้อมแตกต่างกัน รวมถึงได้พบกับตัวละครหน้าใหม่อีกมากมาย

ในเวอร์ชั่นเดิมนั้น เนื้อหาในส่วนของ 7 ฮีโร่เป็นเพียงเรื่องเล่าสืบต่อกันมา แต่ในเวอร์ชั่นนี้ได้เพิ่มการเล่าเรื่องของทั้งเจ็ดเพิ่มเข้ามา ช่วยให้เข้าใจความเป็นมาและแรงจูงใจได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น


พัฒนาเพื่อให้เข้ากับยุคสมัย

ระบบเกมเพลย์ของ RS2 เมื่อสมัย 30 ปีก่อนจัดว่า ว้าวมาก กับระบบท่าปิ๊ง (คิดท่าไม้ตาย) กับฟรีซีนาริโอ้ที่เลือกทำเควสท์ได้ตามใจชอบ และระบบที่ว่ามานี้ก็ยังคงเป็นจุดขายของเกมในเวอร์ชั่นรีเมคเช่นเคย เพียงแต่อาจมีการปรับเปลี่ยนไปบ้างเล็กน้อยให้เข้าใจง่ายไม่ต้องคลำหรือคาดเดาไปเอง อย่างท่าปิ๊งก็มีบอกถึงโอกาสที่เจอเกิด หรือสายการพัฒนาของท่านั้น รวมไปถึงระบบเลเวลของอาวุธที่ต้องใช้ ระบบฟรีซินาริโอ้ก็มีคำใบ้บอกตำแหน่งที่ต้องไปชัดเจน แม้คนไม่เคยเล่นซีรี่ย์นี้มาก่อนก็เข้าใจได้ไม่ยาก

ระบบเก่าหลายๆ คนก็คงคุ้นกันอยู่ แล้วระบบใหม่มีบ้างไหม? บอกเลยว่า มี และมีพอสมควรด้วย เอาที่เห็นชัดเลยก็คือ ระบบเกมเพลย์ตอนต่อสู้ ได้ใส่จุดอ่อนเพิ่มเข้าไปในตัวศัตรู คล้ายกับเกม Breavely Default หากเล่นงานจุดอ่อนได้ก็ช่วยเพิ่มความแรงได้มากกว่าปกติ ต่อมาเป็นระบบ Unite Attack อันนี้เป็นการใช้ท่าไม้ตายต่อเนื่องคู่กับเพื่อน ซึ่งก็แน่นอนว่า ความแรงก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน นอกจากนี้เกมยังเปลี่ยนเทิร์นเบสแบบโบราณ มาเป็นใส่คำสั่งแบบแยกตัวละครตามลำดับความเร็วในการต่อสู้ ตรงนี้ช่วยให้วางแผนการเล่นได้ง่ายยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มอบิลิตี้ (Ability) ในแต่ละคลาสเข้ามา โดยอบิลิตี้พวกนี้ช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้เล่นได้ง่ายขึ้น เช่น ขโมยไอเทมจากศัตรู หรือฟื้น BP เป็นต้น ไม่เท่านั้นตามฉากต่างๆ ก็จะมีไอเทมตกตามพื้นหรือพวกวัตถุดิบที่เอาไว้ใช้คราฟท์อุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เห็นชัดเท่านั้น ยังมีการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดอีกหลายจุดเลยทีเดียว



กราฟฟิคสไตล์อนิเมะ

ภาพการนำเสนอของ RS2 ทำออกมาเป็น 3D ในสไตล์อนิเมะที่เน้นความแฟนตาซี ทว่าสไตล์นี้ส่งผลให้ภาพออกมาเหมือนเป็นเกมในยุค PS3 ไม่ได้ใช้ประสิทธิภาพของเครื่องเกมได้เต็มที่อย่างที่ควร อย่างไรก็ตาม ข้อดีจากการปรับกราฟฟิคเป็น 3D ก็ช่วยให้เกมมีมิติในแนวตั้ง เพิ่มอารมณ์การผจญภัยขึ้น

ส่วนเรื่องดนตรีและเพลงประกอบ สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นแบบคลาสสิคที่เป็นของเดิมทั้งดุ้น หรือแบบรีมิกซ์ที่เรียบเรียงดนตรีประกอบใหม่ ตรงนี้ก็แล้วแต่คนชอบ



สรุป

การรีเมคครั้งนี้ถือว่าทำได้ดีพอสมควร ยังซื้อใจแฟนประจำซีรี่ย์นี้ไปพร้อมกับเรียกหานักเล่นหน้าใหม่ได้ ความยากที่เป็นเอกลักษณ์ของซีรี่ย์ก็เลือกปรับได้ตามใจชอบ มือเก๋าที่ชอบอะไรโหดๆ ก็เลือกแบบยาก (Classic) ส่วนมือใหม่ที่ยังปรับตัวไม่ได้ก็เลือกแบบปกติ (Normal) หรือง่าย (Casual) ไป อีกทั้งระบบเกมเพลย์ก็ปรับให้เข้ากับยุคสมัย เข้าใจการทำงานได้ง่าย ยังเอื้อต่อการเล่นให้สะดวกขึ้น หากจะมีข้อควรปรับปรุงก็คงเป็นกราฟฟิคที่อยากให้ดูอลังการมากกว่านี้

ขอขอบคุณทาง Bandai Namco Entertainment สำหรับการสนับสนุนเกมสำหรับการรีวิว

▱▰▱▰ INFO ▱▰▱▰

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม FB Bandai Namco Entertainment
ข่าวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง FB MEGAXGAME Review

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น