[Review] PERSONA 3 Reload หนึ่งวันมี 25 ชั่วโมง!

มองย้อนกลับถ้าหากถามว่าซีรี่ส์ Persona ที่แต่เดิมแล้วเป็นสปินออฟของ Megami Tensei นั้น จุดเริ่มต้นที่ทำให้ซีรี่ส์นี้ได้รับกระแสโด่งดังขึ้นมาภาคไหน คำตอบสุดท้ายที่น่าจะได้ออกมาก็คือ Persona 3 ที่วางจำหน่ายในปี 2006 และต่อยอดความสำเร็จด้ว Persona 4 และการรีเมคภาคเก่า ๆ กลับมา เมื่อมาถึงเวลานี้ หลังจาก Persona 5 ประสบความสำเร็จ Atlus จึงนำ Persona3 กลับมาปัดฝุ่นอีกครั้ง โดยใส่คำว่า Reload เพื่อการเพิ่มเติมความทันยุคทันสมัยเข้าไปในคอนเทนท์ที่คนชื่นชอบ...

PERSONA 3 Reload

  • Platform: PS5, PS4, Xbox Store Series X/S, Xbox One, PC
  • Developer: P-Studio
  • Publisher: SEGA
  • Genre: RPG
  • Release Date: 2 February 2024

หนึ่งวันมี 25 ชั่วโมง!

Persona 3 Reload เป็นงานรีเมคนำเอา Persona 3 เมื่อ 18 ปีก่อน มาปัดฝุ่นเปลี่ยนทรงให้ดูทันสมัย ซึ่งความดีความชอบในเรื่องนี้ต้องยกให้แฟนเกมที่ชื่นชอบ Persona 5 และพยายามผลักดันให้การรีเมคเกิดขึ้นให้ได้ จนในที่สุดฝันนั้นก็เป็นความจริง ผู้พัฒนาจึงยอมรับข้อเสนอและจัดให้ตามต้องการ!?

เริ่มต้นกันด้วยเนื้อหาของเกม เล่าถึงชีวิตของกลุ่มนักเรียนม. ปลายที่มีพลังพิเศษที่เรียกว่า Persona และได้เข้าร่วมกับหน่วยงานที่มีชื่อว่า Specialized Extracurricular Execution Squad (SEES) เพื่อกำจัด Shadow เจ้าสิ่งมีชีวิตลึกลับที่ปรากฏตัวในช่วงเวลา Dark Hour หรือชั่วโมงปริศนาหลังเที่ยงคืนและไม่อยู่ในเวลาปกติ 24 ชั่วโมง (ชั่วโมงที่ 25) ซึ่งเนื้อเรื่องก็เป็นไปตามต้นฉบับ เพียงแต่ดัดแปลงในรายละเอียด อาทิ บทพูดที่กระชับและสมเหตุสมผลขึ้น หรือเปลี่ยนคำถาม-คำตอบในการตอบคำถามระหว่างชั้นเรียน (โพยเดิมใช้ไม่ได้แล้ว) เป็นต้น และในบางช่วงบางตอนก็นำเสนอเหตุการณ์ด้วยภาพอนิเมะ


ในด้านเกมเพลย์ การรีเมคภาค 3 ออกมาในชื่อตอนว่า Reload ทำให้ดูทันสมัยเข้ากับยุคปัจจุบันและมีกลิ่นอายของป๊อปอาร์ทเหมือน Persona 5 ซึ่งถ้าจะพูดให้ถูกภาค 3 เดิม ก็เป็นจุดเริ่มต้นของฟีเจอร์ในภาคต่อๆ มา โดยในภาค 3 เป็นจุดเริ่มต้นที่ได้เสริมฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามามากมาย อาจเรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนของซีรี่ส์เลยก็ว่าได้หลังจากที่สองภาคแรกเป็น RPG แบบโบราณ


เอาที่ชัดเจนที่สุดก็คงเป็นการแบ่งพาร์ทระหว่าง RPG กับซิมูเลชั่น โดยในส่วนของซิมูเลชั่นนั้นเป็นการจำลองชีวิตนักเรียนในแต่ละวัน ซึ่งต้องเจออะไรมากมายในชีวิต ทั้งการเรียนหรือกิจกรรมซึ่งจะช่วยเพิ่มสเตตัสตัวละครได้ ซึ่งพาร์ทนี้ก็ได้รับการต่อยอดเป็นไปสู่ภาคต่อๆ ไป ขณะที่พาร์ทในส่วนของ RPG จะเป็นในส่วนของการลงดันเจี้ยนที่ชื่อ Tartarus อันเป็นหอคอยสูงที่สภาพทางเดินข้างในจะเปลี่ยนไปทุกวัน ไม่เท่านั้นฟีเจอร์การพูดคุยเจรจากับมอนสเตอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของซีรี่ส์ก็ถูกปรับให้กลายมาเป็นระบบ Shuffle ใช้การเลือกไพ่หลังจบการต่อสู้แทน

ไม่เท่านั้นในภาค Reload ได้เพิ่มระบบหีบสมบัติในดันเจี้ยนเข้ามา ซึ่งหีบสมบัติจะมีทั้งแบบปกติ แรร์ และแรร์แบบที่ต้องใช้กุญแจเปิดเพิ่มเข้ามา

นอกจากนี้ ระบบการต่อสู้ที่เรียกว่า Baton Pass ในภาค 5 ก็ได้เพิ่มเข้ามาใน Reload เช่นกัน แต่มาในชื่อเรียกว่า Shift แทน ขณะที่ระบบ Survey เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาเพื่อบอกให้ผู้เล่นรู้ว่า ใครจะเป็นคนที่ขยับในเทิร์นต่อไป

ด้านดนตรีประกอบ ใช้ดนตรีป๊อปที่เข้ากับบรรยากาศ โดยเป็นการเรียบเรียงใหม่และมีเพลงใหม่เพิ่มด้วย ไม่เท่านั้น การออกแบบทั้งตัวละครกับอินเตอร์เฟซต่างๆ ก็ปรับเปลี่ยนไปให้คล้ายกับภาค 5 เช่นกัน เรียกได้ว่ายังรักษามาตรฐานไว้สูงเช่นเคย

สรุป เหมือนได้เล่นภาค 3 ในแบบภาค 5 อะไรที่เคยดูติดขัดก็ได้รับการปรับแก้ให้ดีขึ้น ละเอียดขึ้น ถ้าไม่เคยเล่นภาค 3 มาก่อน อาจจะนึกว่า ภาค Reload เป็นภาค 6 ไปเลยก็ได้ ซึ่งตัวเกมก็ทำได้ตามมาตรฐานเดียวกันกับภาค 5 ทั้งกราฟฟิคทื่อัพเกรดขึ้น การเดินเนินเรื่องที่ค่อย ๆ เดินหน้า ทำให้เหมือผู้เล่นได้ย้อนรำลึกถึงเกมเดิมที่ก้าวไปสู่มิติใหม่ เล่นสนุกได้ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นหน้าเดิมหรือผู้เล่นวัยเก๋า นี่คือ JRPG ที่ไม่ควรพลาดจริง ๆ

ปล. ถ้ามาทรงนี้แล้ว ภาค 4 รีเมคต้องมาแล้ว!

▱▰▱▰ INFO ▱▰▱▰

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม FB SEGA
ข่าวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง FB MEGAXGAME  Game Review

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น