Special Review Final Fantasy VII Remake
ในที่สุดก็ถึงวันนี้ …วันที่เกมตำนาน Final Fantasy VII Remake ออกวางจำหน่ายหลังจากพัฒนามานานหลายปีจนได้เกมที่มีความยอดเยี่ยมในระดับขึ้นหิ้งเป็นตำนานอีกบทหนึ่ง… MegaXgame จึงจัดรีวิวยาวๆ โดยทีมงาน 2 คน ใน Special Review Final Fantasy VII Remake
และต้องขอขอบคุณ Sony Interactive Entertainment สำหรับการสนับสนุนการรีวิวในครั้งนี้
► Review by Kai
เริ่มต้นกันที่เนื้อเรื่องกันก่อน เชื่อว่าหลายคนคงทราบถึงเนื้อเรื่องของเกมในเวอร์ชั่นออริจินัลกันแล้วว่า เป็นมายังไง ทีนี้พอรีเมคกลับมาใหม่ก็ยังคงเอาเค้าโครงเนื้อเรื่องเดิมนั่นแหละมาตัดแต่งเพิ่มเติมใส่รายละเอียดมากขึ้น (หรือจะเรียกว่า ยืดเรื่อง ก็ได้) เพิ่มบทบาทของบรรดาตัวประกอบอื่น ใส่สีหน้าอารมณ์ความรู้สึกจนได้เห็นคาแรคเตอร์ที่มีความชัดเจน ทั้งยังเพิ่มเหตุการณ์หรือตัวละครบางคนที่ไม่เคยปรากฏให้เห็นเข้ามา
ด้านกราฟฟิคคงไม่ต้องสาธยายอะไรมาก ภาพที่ปรากฏให้เห็นเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า กราฟฟิคของเกมอยู่ในระดับยอดเยี่ยมจนยากจะหาข้อตำหนิได้ ส่วนดนตรีประกอบก็มีทั้งบทเพลงเก่าผสมกับดนตรีประพันธ์ใหม่ ซึ่งในเกมมีตู้เพลง (Juke Box) สำหรับไว้เปิดเพลงจากแผ่นที่หาได้จากที่ต่างๆ ในเกม โดยเพลงที่นำมาประกอบมีทั้งบทเพลงคุ้นหูอย่าง Prelude หรือบางเพลงก็เป็นแบบรีมิกซ์ใหม่
มาถึงในส่วนเกมเพลย์ที่เป็นหัวใจหลักของเกมกันบ้าง อย่างที่ทราบข้อมูลกันไปบ้างละว่า Final Fantasy VII Remake นั้นได้ปรับวิธีการเล่นจาก RPG มาเป็นแอคชั่น แต่ก็ยังคงการใช้คำสั่งแบบเดิมเอาไว้ โดยระบบต่อสู้บางอย่างก็เป็นการนำเอาของเก่ามาใช้ใหม่อย่าง ระบบ Stagger ในภาค 13 ที่เมื่อศัตรูโดนโจมตีจนชะงักลงช่วยเพิ่มความเสียหายเพิ่มขึ้นจากเดิม ตัวละครแต่ละตัวมีบทบาทหน้าที่ยามต่อสู้ชัดเจน เช่น คลาวด์ใช้ดาบโจมตีศัตรูบนพื้น ในขณะที่บาร์เร็ตใช้ปืนกลมือเล่นงานศัตรูที่ดาบไปไม่ถึง หรือทีฟาโจมตีได้ต่อเนื่อง ด้านมาทีเรียยังคงมีอยู่และใช้การเก็บ AP เพื่อเพิ่มเลเวลเช่นเดิม นอกจากนี้ก็มีระบบอัพเกรดอาวุธ ซึ่งเป็นการพัฒนาอาวุธที่มีอยู่ให้ดีขึ้นด้วยสกิลพิเศษที่ต้องใช้ SP แลกเปลี่ยนมา และแน่นอนที่ขาดไม่ได้คือ ต้องมีเควสท์ย่อยนอกเหนือไปจากเนื้อเรื่องหลัก เช่นเดียวกันกับมินิเกมไว้แก้เบื่อ
สรุปแล้ว เกมทำออกได้ดีมากจนเพียงพอที่จะกอบกู้ชื่อเสียจากภาค 15 คืนมาได้ เกมมีรายละเอียดสูงโดยเฉพาะกราฟฟิคสมกับที่เป็นสแควร์เอนิกซ์ เนื้อเรื่องก็ปรับใหม่ให้ดูสนุกแม้จะทราบเรื่องแล้วก็ตาม ในขณะที่เกมเพลย์แม้จะออกมาเป็นแอคชั่นแต่ก็ยังอุตสาห์เอาใจสายวินเทจใส่โหมดคลาสสิคเข้ามาด้วย ซึ่งโหมดนี้ตัวละครจะเคลื่อนไหวเอง ผู้เล่นแค่เลือกใส่คำสั่งเมื่อ ATB ถึงระดับเท่านั้น ทุกอย่างลงตัวมากสมกับที่รอคอยครับ
► Review by Aui_48
FFVII เป็นเกมที่ได้รับกระแสเรียกร้องให้รีเมคมาหลายปีดีดัก ในที่สุดก็เป็นจริงในปีนี้ และตัวเกมไม่ได้ทำให้ผิดหวัง แม้ระบบจะมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มส่วนแอคชั่นเข้ามา แต่ส่วนตัวที่เล่นแอคชั่นไม่เก่งและชอบระบบ ATB มากกว่า ก็ยังสนุกกับส่วนแอคชั่นได้แบบไม่ติดขัด แต่สำหรับคนที่เป็นสายแอ็คชั่นจ๋า อาจจะรู้สึกว่าถึงความครึ่งๆ กลางๆ เพราะกระโดดไม่ได้ แต่มีกลิ้งหลบและป้องกัน เอาเข้าจริงปุ่มป้องกันก็แทบไม่ได้ใช้งาน เพราะเปลี่ยนตัวบังคับไปเลยได้เรื่องกว่าเยอะ
ระบบใหม่ๆ ถูกเพิ่มเข้ามาจากเดิม เช่น ระบบอัพเกรดอาวุธ ที่ต้องใช้ SP ในการตีบวก มีทั้งการเพิ่มพลังโจมตีและพลังเวทย์ เพิ่มสเตตัสต่างๆ หรือแม้กระทั่งการเจาะรูมาทีเรียเพิ่มก็สามารถทำได้ ดังนั้นเราจึงสามารถสร้างอาวุธให้โดดเด่นในด้านใดด้านหนึ่งแล้วเลือกใช้ตามสถานการณ์เป็นสีสันเล็กๆ อย่างหนึ่งที่ให้เลือกใช้อาวุธที่ชอบจากดีไซน์ได้ ขณะที่มาทีเรียอัญเชิญอสูรนั้นสามารถติดให้กับอาวุธได้เท่านั้น แถมยังเป็นรูพิเศษสำหรับติดตั้งมาทีเรียอัญเชิญเท่านั้น ซึ่งรูนี้ไม่ได้รวมกับช่องใส่มาทีเรียปกติ ข้อเสียคือ สามารถใส่มนต์อัญเชิญได้แค่ 1 อย่างเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีมาทีเรียชนิดใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาด้วย และรู้สึกว่าการเก็บ AP ให้กับมาทีเรียนั้นดูจะง่ายและเร็วขึ้นกว่าเดิม
ส่วนเนื้อเรื่องของเกมคงไม่ขอสปอยล์ แต่แปะไว้นิดนึงว่า เกมนี้ไม่เชิงเป็น FFVII ที่เราเคยได้สัมผัส เรียกว่าเป็นจักรวาลคู่ขนานของ FFVII มากกว่า และไม่รู้ว่าทีมพัฒนาอัดอั้นมาจาก FFXV ที่มีแต่หนุ่มๆ หรืออย่างไร ใน FFVII Remake นี้จึงมีโมเม้นต์ความสัมพันธ์น่ารักๆ จนถึงฟินจิกหมอนสอดแทรกอยู่เต็มไปหมด …นอกจากการขยายความเนื้อเรื่องเดิมแล้ว ยังรู้สึกได้ถึงการตีความใหม่ที่ทำให้บทสรุปของเรื่องราวอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในพาร์ทต่อๆ ไปด้วย
อีกเรื่องหนึ่งที่หลายๆ คนอาจจะมองข้ามไป นั่นคือ การเปลี่ยนภาษา โดยส่วนตัวนั้นสามารถฟังภาษาญี่ปุ่นได้ประมาณหนึ่ง จึงเลือกเล่นแบบเป็นเสียงภาษาญี่ปุ่น ซับอังกฤษ สิ่งหนึ่งที่สังเกตุเห็นคือ มุขต่างๆ ในภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ถูกแปลออกมาเป็นอังกฤษอย่างครบถ้วน เช่น การตีฝีปากระหว่างคลาวด์กับแบเร็ต ที่หลายมุขฟังแล้วทำให้บรรยากาศที่ตึงเครียด ดูผ่อนคลายลงไป หรือความมุ้งมิ้งระหว่างคลาวด์กับสาวๆ ก็ทำให้เกิดรอยยิ้มและหลุดหัวเราะออกมาบ้าง ซึ่งบรรยากาศลักษณะนี้จะมีให้สัมผัสได้ในเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นมากกว่า
ด้านกราฟฟิคของเกมบ่งบอกอยู่แล้วว่ามาเต็มแค่ไหน จากมิดการ์ที่มีภาพลักษณ์ทรงกลมมืดๆ ถูกเพิ่มรายละเอียดกลายเป็นเมืองใหญ่อันสุดตระการตา ทั้งเมืองชั้นบนที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีและสลัมด้านล่างที่เสื่อมโทรม แถมยังมีช่วงเวลากลางวันและกลางคืน สลับให้เห็นบรรยากาศที่แตกต่างกันด้วย แต่ในบางครั้งเวลาสลับฉากจากในบ้านออกมานอกตึกก็มีแสงขาวๆ ส่องให้ชวนสะกิดใจอยู่บ้าง ในด้านเพลงประกอบ เป็นเพลงที่หยิบจากเวอร์ชั่นเก่ามาใช้ บางเพลงมีรีมิกซ์หลายเวอร์ชั่นเปิดออกมาในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน ถ้าเคยเล่นเวอร์ชั่นเก่ามาก่อน ต้องมีนึกถึงวันเวลาที่ผ่านมาบ้างแน่ๆ
โดยรวมแล้วตัวเกมมีการตีโจทย์ใหม่หลายจุด ระบบใหม่ๆ ช่วยเพิ่มสีสันให้มากขึ้น ขณะที่ระบบเก่าๆ ก็ยังทำให้คงเสน่ห์และความรู้สึกเดิมๆ ของ FFVII ได้อย่างดี แต่นอกจากเนื้อเรื่องที่ขยายความขึ้นใหม่แล้ว เควสท์ในเกมดูจะน้อยไปหน่อย Square Enix จะจัด DLC มาเพิ่มให้อีกไหมนะ…
► ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม ❖ FB Playstation Asia ❖ Playstation Asia
► ข่าวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ❖ FB MEGAXGAME ❖ รีวิวเกมอื่นๆ