
Dark Souls Remastered
Platform : PS4, Xbox One, PC, Switch
Genre : Action RPG
Publisher : Namco Bandai Games
Release Date : 24 May 2018, Summer 2018 (Switch)
[Review] Dark Souls Remastered
Reviewed by
Kaii on
.
การรีมาสเตอร์ครั้งนี้ ดูเหมือนจะได้อะไรเพิ่มเติมขึ้นเล็กน้อยกว่าของดั้งเดิม แต่ก็ไม่ได้มากจนสร้างความแตกต่างจากเดิมได้ ดังนั้นถ้ามีของเก่าอยู่แล้วก็ไม่น่าคุ้มค่าการลงทุน แต่หากอยากสะสมหรืออยากลองรับประสบการณ์หัวร้อนดูก็ควรลองครับ แล้วจะรู้ว่า ความรู้สึกอยากปาจอยทิ้งเป็นยังไง!?
ด้วยความที่ตัวผู้รีวิวเป็นแฟนซีรี่ส์นี้ เคยคิดอยากให้ดาร์กโซลทำการรีเมคใหม่อีกครั้ง เพราะชื่นชอบภาคแรกนี้มาก ถึงตัวเกมจะช่วยให้หัวร้อนก็ตาม แต่ความยากเข้าขั้นปาจอยทิ้งนี่แหละที่เป็นเสนห์อันหาไม่ได้จากเกมในแนวเดียวกันนี้ ซึ่งตอนนี้ความหวังก็ประสบความสำเร็จจนได้ แม้จะไม่สมบูรณ์เต็มร้อยก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ได้รีมาสเตอร์กลับมาใหม่อีกครั้งตามที่หวังไว้!
การกลับมาของดาร์กโซลนี้ ชื่อก็บอกชัดเจนแล้วว่า เป็นการรีมาสเตอร์ไม่ใช่รีเมค อันหมายถึงการยกเครื่องใหม่หมด แต่การรีมาสเตอร์เป็นเพียงการพอร์ทเกมมายังเครื่องรุ่นใหม่ พร้อมด้วยการปรับแต่งนิดๆ หน่อยๆ ให้ดูมีความคมชัด แสงสีดูชัดเจนระดับ HD ที่สวยงามกว่าเวอร์ชั่นออริจินอลเมื่อ 7 ปีก่อน (เกมวางจำหน่ายปี 2011) และปรับให้เกมสามารถรันได้ที่ 60 เฟรมต่อวินาที จึงทำให้เกมดูลื่นไหลขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ยัง ไม่แน่ใจว่าคิดไปเองหรือไม่ แต่รู้สึกเหมือนเกมได้ปรับลดความยากลงเล็กน้อยด้วยเช่นกัน คล้ายว่าได้ปรับให้ได้รับความเสียหายจากศัตรูลดลง หรือทำให้อึดขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง ซึ่งได้ลองทำการลองทดสอบกับไฟมังกรดูก็พบว่า โดนไฟราว 2-3 ครั้งถึงจะตาย (HP เกือบ 600) ทั้งทีเวอร์ชั่นออริจินอลนั้นรุนแรงพอทำให้ตายได้ในครั้งเดียวเลย อย่างไรก็ตามในส่วนนี้ไม่มีการยืนยันชัดเจน และแม้จะปรับไปแล้วก็ไม่ได้ทำให้เกมกลายเป็นหมูให้เคี้ยวได้ง่ายๆ ยังคงยากอยู่เช่นเดิมนั่นแหละ
ในส่วนที่เหลือนอกจากนี้ ส่วนใหญ่ยังคงเหมือนเดิม มีการปรับในส่วนของการเล่นออนไลน์ อาทิเช่น ปรับจำนวนผู้เล่นจากสี่คนเพิ่มเป็นหก และมีการใช้ Password Matchmaking มาใช้ในเกมด้วย ซึ่งระบบนี้เริ่มใช้ครั้งแรกในดาร์กโซล 3 โดยจะทำการจัดระดับเลเวลและอาวุธที่ใช้ของผู้มาเยือนให้เหมาะสมกับตัวโฮสต์ กล่าวคือ จัดทั้งสองฝ่ายให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน ไม่เท่านั้นในการรีมาสเตอร์ครั้งนี้ได้รวมเอา DLC : Artorias of the Abyss รวมเข้าไปด้วย
Rating:
4.15
ด้วยความที่ตัวผู้รีวิวเป็นแฟนซีรี่ส์นี้ เคยคิดอยากให้ดาร์กโซลทำการรีเมคใหม่อีกครั้ง เพราะชื่นชอบภาคแรกนี้มาก ถึงตัวเกมจะช่วยให้หัวร้อนก็ตาม แต่ความยากเข้าขั้นปาจอยทิ้งนี่แหละที่เป็นเสนห์อันหาไม่ได้จากเกมในแนวเดียวกันนี้ ซึ่งตอนนี้ความหวังก็ประสบความสำเร็จจนได้ แม้จะไม่สมบูรณ์เต็มร้อยก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ได้รีมาสเตอร์กลับมาใหม่อีกครั้งตามที่หวังไว้!

การกลับมาของดาร์กโซลนี้ ชื่อก็บอกชัดเจนแล้วว่า เป็นการรีมาสเตอร์ไม่ใช่รีเมค อันหมายถึงการยกเครื่องใหม่หมด แต่การรีมาสเตอร์เป็นเพียงการพอร์ทเกมมายังเครื่องรุ่นใหม่ พร้อมด้วยการปรับแต่งนิดๆ หน่อยๆ ให้ดูมีความคมชัด แสงสีดูชัดเจนระดับ HD
ที่สวยงามกว่าเวอร์ชั่นออริจินอลเมื่อ 7
ปีก่อน (
เกมวางจำหน่ายปี 2011)
และปรับให้เกมสามารถรันได้ที่ 60
เฟรมต่อวินาที จึงทำให้เกมดูลื่นไหลขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ยัง ไม่แน่ใจว่าคิดไปเองหรือไม่ แต่รู้สึกเหมือนเกมได้ปรับลดความยากลงเล็กน้อยด้วยเช่นกัน คล้ายว่าได้ปรับให้ได้รับความเสียหายจากศัตรูลดลง หรือทำให้อึดขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง ซึ่งได้ลองทำการลองทดสอบกับไฟมังกรดูก็พบว่า โดนไฟราว 2-3
ครั้งถึงจะตาย (HP
เกือบ 600)
ทั้งทีเวอร์ชั่นออริจินอลนั้นรุนแรงพอทำให้ตายได้ในครั้งเดียวเลย อย่างไรก็ตามในส่วนนี้ไม่มีการยืนยันชัดเจน และแม้จะปรับไปแล้วก็ไม่ได้ทำให้เกมกลายเป็นหมูให้เคี้ยวได้ง่ายๆ ยังคงยากอยู่เช่นเดิมนั่นแหละ 
ในส่วนที่เหลือนอกจากนี้ ส่วนใหญ่ยังคงเหมือนเดิม มีการปรับในส่วนของการเล่นออนไลน์ อาทิเช่น ปรับจำนวนผู้เล่นจากสี่คนเพิ่มเป็นหก และมีการใช้ Password Matchmaking
มาใช้ในเกมด้วย ซึ่งระบบนี้เริ่มใช้ครั้งแรกในดาร์กโซล 3
โดยจะทำการจัดระดับเลเวลและอาวุธที่ใช้ของผู้มาเยือนให้เหมาะสมกับตัวโฮสต์ กล่าวคือ จัดทั้งสองฝ่ายให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน ไม่เท่านั้นในการรีมาสเตอร์ครั้งนี้ได้รวมเอา DLC : Artorias of the Abyss
รวมเข้าไปด้วย
เกมรีมาสเตอร์ เหมาะเก็บสะสม
การรีมาสเตอร์ครั้งนี้ ดูเหมือนจะได้อะไรเพิ่มเติมขึ้นเล็กน้อยกว่าของดั้งเดิม แต่ก็ไม่ได้มากจนสร้างความแตกต่างจากเดิมได้ ดังนั้นถ้ามีของเก่าอยู่แล้วก็ไม่น่าคุ้มค่าการลงทุน แต่หากอยากสะสมหรืออยากลองรับประสบการณ์หัวร้อนดูก็ควรลองครับ แล้วจะรู้ว่า ความรู้สึกอยากปาจอยทิ้งเป็นยังไง!?