ในสัปดาห์ก่อน สื่อต่างประเทศอย่างน้อย 3 แห่ง ได้ประกาศว่า ตัวเองได้รับ Xbox Series X มาแล้ว และในสัปดาห์นี้ สื่อสามแห่งนี้ก็ออก Media review Xbox Series X ออกมาพร้อม ๆ กันครับ มีอะไรบ้างลองมาดูกัน
Game spot
เจ้าแรกคือ Game Spot ซึ่งเปิดรีวิวแฮนด์ออนไปเมื่อวาน เนื่องจาก Xbox Series X ซัพพอร์ท เกมพาส ทำให้เริ่มต้นก็มีเกมให้เล่นหนึ่งร้อยห้าสิบเกมที่สมาชิกโหลดได้เลย เกมสปอต เลือกโหลดประมาณ 10 เกม และทดสอบหลัก ๆ 4 เรื่องครับ
เวลาโหลดเกม
เรื่องนี้เกมสปอตยอมรับว่า มีความแตกต่างจากเจนปัจจุบันมาก เวลาในการโหลดเกมลดลง 70 – 80% โดยทาง เกมสปอต ทดสอบกับเกมหลาย ๆ เกมตามด้านล่างเลยครับ สามารถดูคลิปเปรียบเทียบได้
Game | เวลาโหลดของ Xbox Series X | เวลาโหลด Xbox One X |
Red Dead Redemption 2 | 38 วินาที | 2 นาที, 8 วินาที |
Control | 10 วินาที | 58 วินาที |
Final Fantasy XV | 13 วินาที | 1 นาที, 11 วินาที |
The Outer Worlds | 11 วินาที | 43 วินาที |
การแสดงภาพ
สิ่งที่เกมสปอตทดสอบคือเรื่องของเฟรมเรท ในระดับ 4K เกมสปอตเลือกเกมทดสอบคือ ไฟนอล แฟนตาซี15 ที่สามารถเลือกโหมด ให้เฟรมเรทคงที่ที่ 60FPS แต่ดรอบภาพได้ โดยการทดสอบพบว่า ได้ผลน่าพอในมากเพราะการแสดงผลระดับ 4K ในระดับเฟรมเรทคงที่ 60fps นั้นสามารถทำได้ดีมาก เรียกว่าเฟรมเรทไม่เปลี่ยนและระดับกราฟฟิคคงที่ สมูทมาก ๆ
อย่างไรก็ตาม หลายเกมที่ทดสอบเป็นเกมจาก Xbox One เดิม ที่มีการ ล๊อค รีเฟรชเรท ไว้ที่ 30 fps ทำให้ไม่สามารถปรับค่าเพิ่มเพื่อทดสอบได้ อย่างเช่นเกม Outer World เป็นต้น

ควิก รีซูม
สำหรับ Quick Resume หรือระบบการเปลี่ยนไปเล่นเกมเดิมที่เล่นค้างไว้ได้ทันทีไม่ต้องโหลดใหม่ พวกเขาทดสอบพบว่า ระบบนี้สามารถทำงานได้ดี สามารถเปลี่ยนจากอีกเกมไปอีกเกมได้ทันที โดยไม่เสียเวลาเลยแม้แต่น้อย ซึ่งในจำนวนเกม 6 เกม ไม่มีปัญหา ซึ่งเมื่อเพิ่มจำนวนเกมมากกว่านี้ เกมแรกนั้นถูกโหลดใหม่ และจุดที่เล่นค้างไว้หายไป ซึ่งพวกเขามองว่า แค่ 6 เกมก็มากพอแล้ว สำหรับการย้อนไปย้อนมาได้ทันทีแบบนี้
ตัวเครื่อง
สำหรับตัวเครื่องเกม เกมสปอตได้แยกพูดถึงคอนโทรลเลอร์ก่อน แม้ว่าจะดูไม่แตกต่างจากเดิม แต่ตัว กริบ ที่จับมีเทกเจอร์ที่แตกต่าง มีจุดสัมผัสระหว่างคอนโทรลเลอร์ กริบ และทริกเกอร์ ที่มีแถบกันลื่นทำให้ควบคุมได้ดี ปุ่มกากบาท ก็มีการตอบสนองที่ดีมาก ๆ
สำหรับตัวเครื่อง หลายคนอาจจะมองว่าเครื่องใหญ่ แต่เกมสปอตไม่ได้คิดเช่นนั้น พวกเขามองว่า ตัวเครื่องไม่ได้สูงเกินไป เมื่อเทียบกับเครื่องในอดีต แต่หนากว่า การวางนอน ก็มีความสูงที่ไม่ได้มาก ทำให้แม้จะดูหนา แต่ไม่ได้เกะกะเทอะทะ นอกจากนี้พวกเขายังเตือนว่าหากจะวางตั้ง ต้องมีพื้นที่ด้านบนว่าง เพื่อให้ระบายความร้อนได้ดี

สรุป
เกมสปอต บอกว่า ประทับใจกับเครื่อง XSX แต่อย่างไรก็ตามคงต้องรอเกมของเครื่องเจนใหม่ออกมาจริง ๆ จึงจะบอกอะไรได้มากกว่านี้ เพื่อที่จะเห็นการทำงานในระดับสูงสุดได้จริง ๆ แต่การทดสอบทำให้ตัดสินใจได้ง่ายว่าควรต้องกระโดดไปเล่นเครื่องรุ่นใหม่ได้แล้ว
สิ่งหนึ่งที่เกมสปอตมีลงข่าวไว้เพิ่ม คือเรื่องของ SSD 1 TB นั้น ใช้จริง ๆ จะเหลือประมาณ 802 GB โดยที่ที่ใช้ไปจะใช้กับ ระบบ และพื้นที่สำหรับ Quick Resume
IGN
เริ่มต้นของ IGN ต่างจาก เกมสปอต พวกเขาเน้นที่เรื่องมากกว่าเรื่องอื่นครับ ข้อสรุปเรื่องอื่น ถึงค่อนข้างจะสั้นกว่า
การโหลดเกม
เรื่องการโหลดเกมนั้น มีการระบุว่า เร็วกว่า Xbox One อย่างเห็นได้ชัด โดยแต่ละเกมการเปิดเกมใช้เวลาประมาณ 10 – 12 วินาที ในการเข้าหน้าสตาร์ท และใช้เวลาน้อยมากเมื่อเทียบกับ Xbox One ที่ใช้เวลาประมาณ 1 นาที
ระดับกราฟฟิค
IGN เลือกทดสอบกับเกมที่น่าสนใจครับ เช่น เดด ออร์ อไลฟ์6, ฮิทแมน มอนสเตอร์ ฮันเตอร์ เวิล์ด ที่สามารถแสดงกราฟฟิคระดับ 4K และทำงานคงที่ในระดับ 60 FPS มอนฮันนั้น อาจจะดรอบลงมาบ้างในขณะที่ เซกิโร่ ชาโดว์ ดาย ทไวซ์ ที่มีระดับกราฟฟิคที่สวยขึ้น และความเร็วอยู่ที่ 50 – 60 FPS แม้ว่าหลายเกมจะมีปัญหา
ระบบ Quick Resume
การเรียกเกมกลับมาใหม่ ถือเป็นหนึ่งที่ทุกค่ายต้องรีวิว IGN ยืนยันว่าพวกเขาทดสอบระบบนี้ และมันใช้งานได้ดีมากจริง ๆ โดย IGN ให้รายละเอียดเพิ่มว่า มันมีสัญลักษณ์เล็ก ๆ ขึ้นไว้สำหรับเกมที่เรียกควิกรีซูมได้
ตัวเครื่อง XSX
IGN ดูจะให้ความสำคัญเรื่องตัวเครื่องมากครับ เริ่มต้นพวกเขาให้ความเห็นกับสภาพภายนอกว่า เครื่องนั้นดูหรูหรามีราคาสมกับเงิน500 เหรียญ เมื่อเปิดเครื่อง เขามีความผิดหวังเล็กน้อย เพราะแม้ว่าเสียงเข้าเครื่องจะเปลี่ยนไป แต่ว่ามันมีส่วนคล้าย Xbox One มากเกินไปจนไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม IGN มองว่าการวางแนวตั้ง ดูดีมากในการวางในห้องนั่งเล่น
จุดเด่นที่สุดคือระดับความเงียบ พวกเขายอมรับว่า เครื่องทำงานได้เงียบมาก เสียงเบามากจนแทบไม่รู้ว่าเปิด และยิ่งถ้าเทียบกับ Xbox One X ยิ่งแตกต่างไปมากแม้จะทำงานในระดับเต็มที่
ส่วนคอนโทรลเลอร์นั้น จุดชมคือเทกเจอร์ที่อยู่บนกริบ และทริกเกอร์ แต่ก็ยังมีเปรียบเทียบกับ Xbox Elite Controller 2 ว่ายังดูด้อยกว่า ก่อนที่จะบอกว่าพวกเขาก็เข้าใจว่า Elite คอนโทรลเลอร์แพงแค่ไหน

สรุป
พวกเขายังมองว่า ยังไงก็ต้องรอดูกราฟฟิคเกมที่ออกมาสำหรับเนกซ์เจนจริง ๆ เพราะเกมที่เล่นในตอนนี้ แม้จะดูดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ถึงกับมีการเปลี่ยนแปลงมากมายอะไร บางเกมก็ไม่ได้เปลี่ยนเลย ดังนั้นเกมเนกซ์เจนจริง ๆ คือจุดสำคัญที่จะทำให้เห็นได้ชัดเจนว่า เครื่องมีประสิทธิภาพจริงหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไมโครซอฟท์โฆษณาไว้ เช่น ควิกรีซูม การเล่นเกมเก่าถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมครับ
The Verge
อีกเล่มที่ได้เครื่อง XSX ไปทดสอบ พวกเขาเองก็โฟกัสหลัก ๆ คือ เวลาในการโหลด ระบบควิกรีซูม และการเล่นเกมเก่าได้ครับ
เวลาในการโหลด
สำหรับ The Verge ได้ทดสอบกับเกมด้วยกันทั้งหมด 9 เกมครับ โดยเกมที่เน้นพูดถึงจะเป็นเกม เดสทินี่ 2 และ ซี ออฟ ทีฟ ที่ระบุว่า Xbox One X โหลดนานกว่าเป็นนาที โดยเฉพาะ เดสทินี่ ที่ปกติเวลาโหลดระหว่างดาวจะอยู่ที่นาทีกว่า ๆ แต่เหลือแค่ 30 วินาที สำหรับ XSX
Game | Xbox Series X | Xbox One X |
CoD: Warzone | 16 วินาที | 21 วินาที |
Red Dead Redemption 2 | 52 วินาที | 1 นาที 35 วินาที |
The Outer Worlds | 6 วินาที | 27 วินาที |
Evil Within 2 | 33 วินาที | 43 วินาที |
Sea of Thieves | 20 วินาที | 1 นาที 21 วินาที |
Warframe | 25 วินาที | 1 นาที 31 วินาที |
AC: Odyssey | 30 วินาที | 1 นาที 7 วินาที |
No Man’s Sky | 1 นาที 27 วินาที | 2 นาที 13 วินาที |
Destiny 2 | 43 วินาที | 1 นาที 52 วินาที |
ระดับกราฟฟิค
พวกเขาทดสอบระดับกราฟฟิคเกมด้วย เดสทินี่ 2 เนื่องจากเป็นเกมที่ทำงานบนความเร็วที่ 60 fps ได้บน XSX และ PS5 และนั่นก็เป็นเรื่องจริง ที่พวกเขาทดสอบกับ XSX แล้วสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ใน Xbox One X ระดับจะอยู่ที่ 30 fps และมีจังหวะหน่วง แต่ที่ XSX ไม่มีปัญหากับการทำงานในระดับ 60 fps เลย
นอกจากนี้ จุดเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่นเวลาในการโหลดเมนูสั้นลงมากจนเหมือนไม่มีเลย หรือการแสดงผลแบบกะทันหันของการปรากฎตัวของศัตรูบนอินเตอร์เฟส ยังทำให้ความรู้สึกในการเล่นดีขึ้นมาก ไม่ต่างจากความเร็วในการเล่นบน PC เกมอย่าง Warframe หรือ Sea of Thief ก็มีการเปลี่ยนแปลงคล้าย ๆ กัน เป็นการใช้ประโยชน์จาก CPU GPU และ SSD เพิ่มประสิทธิภาพเกม
จุดแตกต่างอีกอย่างในการเล่น คือสามารถเล่นร่วมกับผู้เล่นบน Xbox One ได้ทันที ไม่ได้เป็นเซเวอร์ใหม่แยกกัน เหมือนกับระบบเก่า ๆ บนคอนโซลส่วนใหญ่
อย่างไรก็ตามพวกเขามองว่า ยังมีหลายเกมที่อยากทดสอบ แต่ยังไม่ได้ปลดล็อค อย่างเช่น ฟอร์ซ่า ฮอไรซอน 4 ซึ่งถ้าได้ทดสอบจริง ๆ กับเกมพวกนี้คงจะดียิ่งขึ้น
/cdn.vox-cdn.com/uploads/chorus_asset/file/21916859/destiny2menu.gif)
ระบบ Quick Resume
The Verge นับว่าชาญฉลาดมากในการทดสอบระบบนี้ พวกเขาไม่ใช่แค่ ลงเกม เปิดเกมแล้วลองสลับเกมเล่น พวกเขาลองทำงานด้วยการ “รีบูทเครื่องใหม่แบบสมบูรณ์” ทว่าเกมก็ยังคงกลับไปเล่นที่จุดเดิมได้ทันทีด้วยระบบ Quick Resume เหตุผลก็คือการใช้พื้นที่ SSD ในการเก็บข้อมูลนั่นเอง
และอีกการทดสอบหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า Quick Resume ไม่มีประโยชน์ สำหรับเกมที่เล่นบนระบบออนไลน์ อย่างเช่น Sea of Thief นั่นคือไม่สามารถเรียกเกมกลับมาได้ ต้องกลับไปเล่นใหม่ ซึ่งเรื่องนี้คงต้องบอกว่ายอมรับได้ เพราะสภาพการเล่นเปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลาสำหรับเกมออนไลน์ การบันทึกจุดปัจจุบันไว้ให้เล่นต่อจึงเป็นไปไม่ได้
/cdn.vox-cdn.com/uploads/chorus_asset/file/21916860/quick_resume.gif)
สรุป นี่คือ Xbox เวอร์ชั่นอัพเกรด
ท้ายที่สุด The Verge มองว่า นี่คือเครื่อง Xbox One อัพเกรด เหมือนคุณมีโทรศัพท์เครื่องใหม่ ลื่นขึ้น ไวขึ้น แต่ทุกอย่างยังคงเดิม ส่วนหนึ่งพวกเขายอมรับว่าเป็นเพราะมีแต่เกมเก่า ๆ ให้เล่นในตอนนี้ เลยทำให้ไม่รู้สึกเหมือนเล่นเครื่องเกมใหม่ นอกจากทุกอย่างมันดีขึ้น เมื่อได้รับเกมใหม่สำหรับ Next Gen จริง ๆ แล้ว ก็คงจะบอกได้
สรุปโดยรวมแล้ว แน่นอนว่าเราจะเห็นศักยภาพที่เพิ่มขึ้น เป็นเรื่องปกติของเครื่องเกมรุ่นใหม่ แต่ที่แตกต่างไปจากทุกครั้ง คือการที่เครื่องสามารถนำเกมเก่า มาเล่นบนเครื่องได้เลยโดยไม่ต้องปรับอะไร แถมยังสามารถเล่นร่วมกับผู้เล่นบนเครื่องเก่าได้ด้วย สิ่งนี้คือความแตกต่างที่เกิดขึ้นในเจนเนอเรชั่นนี้ และคงต้องรอดูว่า แนวคิดนี้ของไมโครซอฟท์ คือ เครื่องเกมเป็นแค่ ดีไวซ์ หนึ่งในการเล่น จะนำไปสู่รูปแบบที่เป็นจริงได้หรือไม่ หากจริง ๆ แล้ว ทุกเกมจะเล่นได้บนทุกเครื่อง เหมือนเราใส่แผ่น DVD หรือ BD ไปบนเครื่องเล่น โซนี่ พานา หรือ ไพโอเนียร์ เครื่องไหน รุ่นไหนก็เล่นได้