จากการที่ Bloodstained: Ritual of the Night มีระบบการเล่นที่ค่อนข้างละเอียดอยู่พอสมควร ทาง MXG จึงขอนำเสนอฟีเจอร์ต่างๆ ที่น่าสนใจของเกม ดังต่อไปนี้
Dissect Bloodstained Ritual of the Night
Shard
พลังปีศาจที่อยู่ในรูปของคริสตัล และปรากฏขึ้นมาภายหลังจากที่ปีศาจตนนั้นถูกกำจัดลง (อัตราการดรอปแตกต่างกันไปตามแต่ละชนิด) ซึ่ง Shard ที่ได้รับมาจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังความสามารถให้แก่มิเรียม ตัวเอกของเกมนี้ โดย Shard แบ่งออกเป็น 6 ประเภทได้แก่
- Conjure Shard
Shard ประเภทนี้เปรียบเหมือนเวทมนตร์คาถาทที่ใช้โจมตีศัตรู ดังนั้นจึงย่อมเสีย MP เป็นเรื่องปกติ และเป็นคริสตัลที่พบได้บ่อยสุด ลักษณะของคริสตัลจะมีสีแดง และเวลาใช้ให้กดปุ่มสามเหลี่ยม (PS4) - Manipulative Shard
อันนี้เป็น Shard ที่มีคุณสมบัติใช้ในการควบคุมสิ่งของในบางจุดที่กำหนดไว้ อาทิเช่น ใช้มือจับเพื่อเคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวาง เป็นต้น มีลักษณะเป็นสีน้ำเงิน และเวลาใช้ให้กดปุ่ม R1 (PS4) - Directional Shard
คล้ายกับ Conjure Shard ตรงที่มีคุณสมบัติเป็นเวทมนตร์ใช้เล่นงานฝ่ายตรงข้าม แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือ Directional Shard สามารถเลือกทิศทางการปล่อยได้ โดยการเลือกทิศทางด้วยอนาล็อค R และเวลาใช้ให้กด R2 (PS2) สีของ Shard มีสีม่วง - Passive Shard
คุณสมบัติของ Shard มีผลช่วยเพิ่มความสามารถของตัวมิเรียมให้ดียิ่งขึ้น อาทิเช่น เพิ่มพลังต้านทาน หรือค่าพลังสเตตัสให้สูงขึ้น เป็นต้น ลักษณของคริสตัลมีสีเหลือง ไม่ต้องกดใช้ใดๆ เพียงแค่ติดตั้งลงไปก็พอ
อย่างไรก็ตาม Passive Shard ติดตั้งได้เพียงแค่ครั้งละหนึ่งเท่านั้น ทว่าหากอัพแรงค์ให้ถึง 9 ได้แล้ว คริสตัลนี้จะกลายสภาพเป็น Shard พิเศษที่เพิ่มความสามารถโดยอัตโนมัติทันทีโดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งเข้าในร่างกายแต่อย่างใด แถมยังสามารถเปิด/ปิดได้ตามต้องการ ไม่เท่านั้นผลที่เกิดขึ้นยังสมทบรวมเข้ากับ Passive Shard ที่ติดตั้งด้วย - Familiar Shard
คริสตัลที่ช่วยเรียกสมุนมาเป็นตัวช่วยต่อสู้ ซึ่งลูกน้องที่มาช่วยนี้สามารถอัพเลเวลขึ้นได้โดยอาศัยค่าประสบการณ์ที่ได้จากศัตรูเช่นเดียวกันกับมิเรียม ลักษณะของคริสตัลมีสีเขียว - Skill Shard
ชิ้นสุดท้ายเป็นคริสตัลชนิดพิเศษ มีคุณสมบัติเพิ่มความสามารถในเกมเพลย์ เช่น กระโดดสองชั้นหรือสร้างทางลัดในการเลือกใช้อุปกรณ์ เป็นต้น โดยสามารถเลือกปิด/เปิดสกิลเหล่านี้ได้ในเมนู
Grade
เมื่อได้รับ Shard ที่มีชื่อเดียวกันจากศัตรู (หรือได้ Shard ซ้ำ) มีผลก่อให้เกิดการอัพเกรดพลังความสามารถนั้นในด้านของพลังหรือผลที่เกิดขึ้น หรือทำให้ความสามารถนั้นดีขึ้นนั่นเอง โดยเกรดสามารถสะสมได้รวมกันสูงสุดที่ 9 ระดับ ไม่สามารถเก็บได้เกินจากนี้แล้ว
Rank
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการพัฒนาความสามารถของ Shard โดยอาศัยการใช้วัตถุดิบที่แตกต่างกันไปเพื่อทำการอัพแรงค์ขึ้น ส่งผลในด้านของระยะโจมตีหรือระยะเวลา อะไรทำนองนี้เป็นต้น ไม่ได้ช่วยเพิ่มพลังของความสามารถให้แข็งแกร่งขึ้น วิธีการเพิ่มแรงค์ทำได้โดยการไปพบกับโยฮันเนส ใน Arvantville
อนึ่ง Passive Shard ที่อัพแรงค์จนถึง 9 แล้วจะกลายเป็น Enchant Rank ที่ส่งผลของ Shard โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งเลย
Alchemy
วิชาเล่นแร่แปรธาตุของโยฮันเนส สามารถใช้คราฟหรือสร้างไอเทมต่างๆ ได้ โดยแบ่งออกเป็นสี่หัวข้อได้แก่
- Craft : การสร้างไอเทมด้วยแร่หรือวัตถุดิบ
- Prepare : การทำอาหารด้วยวัตถุดิบและเครื่องปรุง
- Enchance Shard : ทำการเพิ่มแรงค์ให้แก่คริสตัล
- Dismantle : แยกส่วนประกอบไอเทมให้กลายเป็นวัตถุดิบย่อย
Quest
เควสท์สามารถรับได้จากชาวบ้านที่พบทั้งในบริเวณหมู่บ้าน Arvantville หรือที่อื่นๆ วิธีการทำเควสท์ก็เพียงแค่ทำตามคำขอร้องของลูกค้า ส่วนมากเป็นการไปปราบมอนสเตอร์หรือหาไอเทมที่ต้องการมาให้
ความสำคัญของค่า Stat
- ATK : พลังโจมตีโดยรวม
- DEF : พลังป้องกันโดยรวม
- STR : พลังความแข็งแกร่งมีผลต่อพลังโจมตีทางกาย
- INT : พลังเวทมนตร์ ส่งผลต่อการโจมตีด้วยเวทมนตร์
- CON : มีผลต่อการรับการโจมตีทางกาย
- MND : มีผลต่อการรับการโจมตีด้วยเวทมนตร์คาถา
- LCK : ค่าโชค มีผลต่ออัตราการดรอปไอเทมและเงินของศัตรู
Technique
เทคนิคคือทักษะวิชาของอาวุธประเภทต่างๆ โดยที่ผู้เล่นจำเป็นต้องกดคอมมานด์คำสั่งเหมือนเกมต่อสู้ให้ถูกต้องก็จะเกิดเป็นวิชาออกมา (เสีย MP) ซึ่งปกติแล้วสามารถเรียนรู้วิธีกดได้จากการอ่านหนังสือในตู้ตามจุดต่างๆ แต่หากรู้วิธีกดและรู้จักอาวุธที่จำเป็นก็สามารถกดใช้ได้เลย (อาวุธบางชิ้นไม่มีทักษะวิชา) และเมื่อใช้บ่อยครั้งจะเกิดความช่ำชองเป็น Master ช่วยให้สามารถใช้ทักษะวิชานั้นได้กับอาวุธทุกชิ้นในกลุ่มเดียวกัน
ทักษะเทคนิคทั้งหมด

หมายเหตุ : เปลี่ยนปุ่ม X เป็นปุ่มโจมตี