ข้อมูลเกม : [ARMS] ประเภท : Fighting action เครื่อง : Nintendo Switch ช่วงการวางจำหน่าย : ออกวางตลาดแล้ว ค่าย : Nintendo ภาษา : อังกฤษ ญี่ปุ่น และอื่นๆ
ถ้าจะเอ่ยถึง เกมต่อสู้ของทางนินเท็นโดในสมัยก่อน อย่าง Punch out (เกมชกมวย) ก็น่าจะมีคนรู้จักบ้าง ถ้าเป็นรุ่นลุงหนวดนะครับ อิอิ ^o^ แต่เมื่อวันเวลาได้ผ่านไป เกมการต่อสู้ ก็ย่อมมีการผันเปลี่ยน เพื่อให้ทันสมัย อย่าง เกม [ARMS] ในที่นี้ ทางผู้เขียนจึงได้นำเอา หลักการต่อสู้ รวมทั้ง ข้อดีและข้อเสียของแต่ล่ะนักสู้ มาให้ได้อ่านกันครับ ^o^
Ribbon girl :
ผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้บน “เวหา” ด้วย การกระโดดอย่างต่อเนื่อง เข้าเล่นงานศัตรูทางด้านล่าง ส่วนสิ่งที่ควรทำ คือ กะจังหวะตอนลงพื้น เพื่อใช้เล่นงานในจังหวะอันนั้น ทางด้านความสามารถส่วนตัว ก็มีอยู่ค่อนข้างสูง จึงใช้รับมือคู่ต่อสู้ที่เก่งๆได้ง่าย
ข้อดี :
- สามารถกระโดดต่อเนื่องบนอากาศ เพื่อโจมตีจากที่สูงๆได้ดี และยิ่งมีการใช้ ร่ม เพื่อลอยตัวด้วยแล้ว จะสามารถกระหน่ำรัวหมัดให้โดนคู่ต่อสู้ได้ง่าย
- สามารถเป็นฝ่ายบุกเข้าตีได้ก่อนได้ และถ้าอีกฝ่ายตั้งการ์ดกัน ก็สามารถใช้จังหวะอันนี้ เข้าทุ่มทันทีได้
ข้อเสีย :
- มีความเข้ากันไม่ดีกับ อาวุธบางอย่าง อาทิ “เวอร์ทิเคิลอาร์ม” ซึ่งหากสวมใส่อาวุธอันนี้ แม้ว่าจะใช้ยิงต้านอากาศได้ แต่จะทำให้ตัวของเธอ “ไม่สามารถกระโดดไปมา”ได้ จึงต้องพึ่งระวังการใช้อาวุธชนิดนี้เอาไว้ด้วย
Spring man :
ถือเป็นนักสู้ที่มีความสามารถพื้นฐานมากที่สุด และถ้าพลังกายกำลังจะหมดลงแล้ว จะสามารถ “ชาร์จ” เพื่อใช้อาร์มสะท้อนหมัดของคู่ต่อสู้กลับไปได้ เพียงแต่ว่า มันเป็นความสามารถที่ใช้ได้ในช่วงจังหวะเดียว โดยทั่วไป จะไม่มีจุดเด่น
ข้อดี :
- หากพลังกายลดลงเหลือ 1 ใน 4 จนอยู่ในสภาพ “ชาร์จ”ได้ และมีการใส่ “อาร์มในคุณสมบัติ แช่แข็ง” ได้ จะช่วยให้อัดโดนได้ง่าย หรือ ถ้ามีการใส่ “อาร์มในคุณสมบัติ ติดไฟ” ได้ จะใช้โจมตีกลับอย่างรุนแรงได้ ส่วนเป็นแบบ “ธาตุลม” ก็ใช้ซัดให้ศัตรูล้มลงบ่อยๆได้ ด้วยเช่นกัน ฉะนั้น การเลือก อาร์ม ให้เหมาะสม จึงมีความสำคัญด้วยเช่นกัน
- คลื่นกระแทก จะให้ผลได้ดี ก็ต่อเมื่อ คู่ต่อสู้ เข้ามาใกล้ตัว และถ้าชกโดนก่อนที่จะปล่อยคลื่นกระแทกออกไป ศัตรูจไม่สามารถตั้งการ์ดกันได้ ทำได้แต่เพียงหลบเอาอย่างเดียว จึงเป็นโอกาสให้ใช้เล่นงานในจังหวะนี้ได้ (ขณะที่ศัตรูทำการหลบนะครับ)
ข้อเสีย :
- จากการที่ต้องพึ่ง “สภาพชาร์จ” เป็นหลัก หากยังใช้ความสามารถดังกล่าวไม่ได้ ก็เหมือน นักสู้ที่ไม่มีอะไรเด่น จึงอาจแพ้ไปได้ง่ายๆ เวลาสู้ จึงต้องคำนวณพลังกายของตนเอง เพื่อจับจังหวะการใช้ให้ดีๆ
Menmen :
นักสู้ที่ถูกใช้บ่อยในการ “ศึกแร็งกิ่ง” จาก ความสมดุลที่ดีและฝีมือที่แสนร้ายกาจ และถึงในตอนปกติ อาร์ม จะดูเล็กและผอม แต่พอมีการ “ชาร์จ” แล้ว จะกลายเป็น “หมัดมังกรทางแขนซ้าย” ได้ และถ้าชาร์จจนใหญ่สุด จะอยู่ใน “สภาพชาร์จตลอดเวลา” (เฉพาะแขนซ้ายเท่านั้น) และถ้าสามารถทำการ “พุ่งถลา (หรือ แดช) กลางอากาศ” ได้ ยังสามารถ “เตะ” เข้าใส่ทางศัตรูได้อีก และยังสามารถในการสะท้อนอาร์มของอีกฝ่ายหนึ่งได้
ข้อดี :
- การที่สามารถใช้ “แขนมังกร” ได้ ยิ่งเลือกใช้กับอาร์มที่เหมาะสมกับตนด้วยแล้ว ก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ (เพียงแต่ว่า หากถูกศัตรูอัดจนล้มคว่ำ จะทำให้สิ้นสุดสภาพของแขนมังกรไปได้)
- ในการ “เตะ” ใส่ศัตรู ยังทำให้ อาร์มของคู่ต่อสู้ ตกลงได้ เพียงแต่ มีจังหวะการใช้ที่ “ค่อนข้างช้า” (กะจังหวะยาก) จึงควรรักษาระยะอยู่ใน “ระยะปานกลาง” หรือ “ระยะไกล” เอาไว้ก่อน
ข้อเสีย :
- แม้แขนมังกรจะมีความร้ายกาจ แต่ถ้าสิ้นแขนมังกรแล้ว จะเหมือน เด็กสาวธรรมดาคนหนึ่ง และในการชาร์จแขนมังกร จำเป็นต้องใช้ “เวลาสักพักหนึ่ง” จึงอาจเปิดช่องโหว่ให้กับทางศัตรูได้ ฉะนั้น หากทางคู่ต่อสู้จับทางได้ ด้วยการจ้องตรงจังหวะการชาร์จ อาจถูกอีกฝ่ายจับทุ่มเอาง่ายๆได้
Twin tera :
มีจุดแข็งตรง “การชาร์จอาร์มกลางอากาศ” ด้วยเหมือนกัน และใช้จังหวะการลงพื้น เล่นงานศัตรู และในสภาพที่มีการชาร์จอาร์มอยู่นั้น จะให้ผลพิเศษตรงที่ “จะช่วยชะลอการยิงหมัดถึงตัวของอีกฝ่ายหนึ่งให้ช้าลงกว่าเดิมได้”
ข้อดี :
- จากการที่สามารถทำให้ “การออกหมัดของอีกฝ่ายช้าลงได้” จึงจ้องหาโอกาสโต้กลับอีกทางหนึ่งได้ และถ้าสามารถชาร์จจนเต็มได้ ก็สามารถสะท้อนหรือปัดหมัดของคู่ต่อสู้ เพื่อกระหน่ำหมัดให้โดนตัวศัตรูทั้งหมดได้
- อนึ่ง สามารถชาร์จหมัดในขณะที่อยู่สูงแบบต่อเนื่องได้ หากรู้จักใช้ กลไกในสเตจ อย่างเช่น แท่นกระโดด และอื่นๆ จะทำให้สามารถกระโดดขึ้นไปสูงๆ เพื่อทำการชาร์จ โดยมิให้ศัตรูมีโอกาสโจมตีใส่ตัวเราได้
ข้อเสีย :
- เนื่องจากการชาร์จบนอากาศ ใช้เวลานานเกินไป จึงอาจทำให้พลาดโอกาสหรือโดนโจมตีได้ งานนี้ จึงควรเลือกใช้ระหว่าง การชาร์จบนพื้นดิน เข้ามาช่วยหนุนอีกทางหนึ่งด้วย
Bite&Bark :
ถือเป็นตัวละครที่มี “ลูกเล่นอยู่เยอะมาก” และต้องพึ่ง “ฝีมือการบังคับ” อยู่พอสมควร และเนื่องจาก นาย ไบท์ มีความสามารถต่ำและแขนที่รีบและบาง บวกกับ เคลื่อนตัวได้ช้า จึงจำเป็นต้องพึ่ง “เจ้าบาร์คที่เป็นหุ่นยนต์สุนัข”
ข้อดี :
- สามารถต่อสู้โดยใช้ “เจ้าบาร์ค” เป็น แท่งส่งตัว กระโดดขึ้นสูงๆ เพื่อโจมตีจากทางอากาศอย่างรุนแรงได้ จึงควรใช้วิธีนี้ เป็นหลักในการเข้าปะทะศัตรู และระหว่างที่กระโดด จะมีการปล่อยคลื่นกระแทก ซัดให้อาร์มของศัตรูร่วงหล่นลงได้อีก
- แถม อาร์มของเจ้าบาร์ค ยังใช้ขัดจังหวะ รวมทั้ง เป็น “โล่” ป้องกันการโจมตีของอีกฝ่ายหนึ่งได้
ข้อเสีย :
- หากสูญเสีย “เจ้าบาร์ค” ไป ตัวของไบท์จะบอบบางมาก ซึ่งหากถูกชกเข้า อาจล้มลงในหมัดเดียวได้ จึงต้องรู้จักใช้ “คลื่นกระแทก” ป้องกัน เจ้าบาร์ค อีกทางหนึ่งด้วย
- เนื่องจากสองเกลอคู่นี้ สามารถต่อสู้ได้ดีในบางสเตจเท่านั้น หากเป็นสเตจที่มีที่แคบๆ หรือ จำกัดพื้นที่การยืนการยิง อาจไม่เหมาะสม
Mecanica :
ถือเป็น “ตัวละครที่ถูกใช้บ่อยภายในงานแข่งทางออนไลน์ พร้อมกับ สามารถคว้าชัยชนะเลิศมาครองได้” ^o^ และถึงจะเป็นนักสู้ตัวหนัก เคลื่อนไหวช้า แต่ก็สามารถ “ลอยตัว” ได้ในระดับหนึ่ง อนึ่ง การทุ่ม สามารถสร้างความเสียหายได้มากพอสมควร บวกกับ อาร์มที่ทั้งใหญ่และรุนแรง จึงสามารถเข้าต่อสู้ โดยไม่ระคายเคืองต่อการโจมตีที่ไม่ค่อยรุนแรงมากนักได้
ข้อดี :
- จากการที่้ร่างกาย หรือ บอดี้ ทนต่อสภาพการโจมตี ไม่ว่า การแดชเข้าโจมตี หรือ กระโดดโจมตีลงมา จึงสามารถใช้อาร์มที่ใหญ่ๆและรุนแรง ไล่ต้อนคู่ต่อสู้ให้จนมุมได้
- พอมีการลอยตัวกลางอากาศ ก็สามารถใช้ อาร์มที่ใหญ่ๆและรุนแรง เปิดฉากเข้าจู่โจม หรือ แลกหมัดกันตรงๆได้
ข้อเสีย :
- ถึงตัวจะเคลื่อนไหวช้า แต่ก็ใช้ การลอยตัว ช่วยการเคลื่อนที่ได้ แต่ถ้ายังสามารถบังคับได้อย่างแคล่วคล่อง ก็อาจจะไล่ตาม หรือ ดักทางของศัตรูได้ยาก รวมทั้ง อาจถูกศัตรูล่อหลอกได้ง่าย จากการที่เคลื่อนไหวตัวช้าได้
- จึงจำเป็นต้อง “ตั้งการ์ด” กันให้ดีๆ แล้วใช้อาร์มพวกที่ทำให้อีกฝ่ายล้มลงได้ง่าย เข้าช่วย อย่างเช่น พวกธาตุไฟหรือลม เป็นต้น
DNA man :
ถือเป็นนักสู้ที่มี “ลูกเล่นลูกเชิงอยู่สูงมาก” จึงใช้งานได้ค่อนข้างยาก หากยังไม่เคยชิน หรือ รู้จักวิธีการใช้งาน และเนื่องจากตัวเขา มีการยืดหยุ่นได้ จึงสามารถ สวิงตัวหลบ ซ้ายขวา ได้ (แบบว่า เดาทางยากนะ ^o^)
ข้อดี :
- แม้ว่า ความสามารถจะดูทั่วๆไปแบบพื้นๆ แต่จากการที่สามารถ “ก้มตัว แล้วหลบการโจมตีได้” จึงถือเป็น จุดแข็งของตัวเขา
- และพอทำการยืดตัว จะทำให้อยู่ในสภาพของ “การชาร์จ” ได้ ทำให้สามารถโจมตีในแบบอยู่กับที่ได้ และถ้าสามารถโจมตีในสภาพเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆได้ จะทำให้คู่ต่อสู้ล้มลงอย่างแน่นอน
- การยิง “เรย์โดร่า” จากระยะไกลของ DNA man มีพิษสงร้ายกาจมาก!!!
ข้อเสีย :
- ถึง DNA man ในสภาพยืดตัว จะ “น่ากลัวมาก” แต่ถ้ามีการใช้ อาร์ม อย่างเช่น จักรตรา (กงจักร) ที่สามารถโจมตีโดนตัวจากทางด้านข้างได้ จะไม่สามารถป้องกันได้
- และถึงในสภาพ “ก้มตัว” จะโจมตีโดนได้ง่าย แต่ถ้ามีการกระโดดขึ้นฟ้า เพื่อโจมตีลงจากทางด้านบน จะโดนเอาง่ายๆได้ จึงถือเป็นตัวละครที่ต้องพึ่งเทคนิคการบังคับพอสมควรครับ
Kid cobra :
ถือเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ถูกใช้บ่อยใน “ศึกแร็งกิ่ง”เมื่อเดือนที่แล้ว ทั้งความสามารถและอาร์มของเขา ถือว่า มีประสิทธิภาพดีมาก และยิ่งได้ใช้ควบคู่กันกับ “เวอร์ติเคิลอาร์ม” ด้วยแล้ว ยิ่งแข็งแกร่งเข้าไปใหญ่
ข้อดี :
- จากที่หมัดของเขาทั้งใหญ่และแรง จึงโดนตัวศัตรูได้ง่าย ถ้ามีการ “ชาร์จ” พร้อมกับ ได้ใช้ควบคู่กันกับ “บัลลูเนอร์” จะยิ่งโดนตัวศัตรูได้ง่าย พร้อมกับ รุกไล่ให้จนมุมได้
- สามารถจับทุ่มได้รุนแรงพอสมควร
- และถึงจะเป็นนักสู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก แต่ก็ใช้ การกระโดด หรือ แดช เข้าช่วยหนุนอีกทางหนึ่งได้
- และถ้ามีการชาร์จและแดชติดต่อกัน 2-3 ครั้ง จะทำให้สามารถเปลี่ยนตำแหน่งการยืนของตนได้
- จึงควรรักษาระยะ เพื่อยิงหมัดเข้าถลุงอย่างต่อเนื่อง เป็นการปิดช่องโหว่ไปในตัวด้วย
ข้อเสีย :
- ถึงอาร์มจะใหญ่และชกโดนง่าย แต่ถ้าใช้ผิด อาจทำให้ อาร์มของตนเอง “พังได้” อย่างไม่ทันรู้ตัว จนอยู่ในสภาพ “ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้”
- และถึงการแดชอย่างต่อเนื่องในสภาพชาร์จ จะใช้งานได้ง่าย แต่ก็ไม่ช่วยกู้สถานการณ์ ให้พลิกกลับไปได้
- หากสู้โดยไม่มีหลักการ หรือ ฝีมือเพียงพอ อาจแพ้ไปได้ง่าย แม้ว่า ความสามารถทางกายจะเยอะก็ตามที
Ninjara :
เห็นใช้กันบ่อยๆในงานแข่งทางออนไลน์ แต่พอได้ลองใช้จริง กลับใช้งานยากมาก จุดเด่นก็คือ การแดชกลางอากาศ แล้วหายตัวไปโผล่ที่อื่น รวมทั้ง มีความเร็วในการเคลื่อนตัวเยอะ
ข้อดี :
- เพราะเคลื่อนตัวได้เร็ว จึงล่อหลอก หรือ เข้าเล่นมุมอับของคู่ต่อสู้ได้ง่าย
ข้อเสีย :
- การเคลื่อนตัวเร็วและการจับทุ่มทำได้ง่าย แต่ไม่เหมาะกับการใช้บุกเข้าโจมตีเป็นอย่างยิ่ง
- จากการที่กดตั้งการ์ด แล้วมักกลายเป็น “การวาร์ป” ไปเฉยๆได้ จึงอาจเสียจังหวะและโดนเล่นงานกลางทางได้ จึงต้องรู้จักตั้งการ์ดและเลือกวาร์ปในจังหวะที่เหมาะสมเท่านั้น
Master Mummy :
ถึงหมัดจะใหญ่ แต่ก็ไม่เร็วหรือมีแรงกระโดดเท่ากันกับ คิดค๊อบบร้า จึงต้องพึ่ง ความแรงของหมัด พร้อมกับ ตั้งการ์ดกันให้ดีๆ (ในตอนตั้งการ์ด จะมีความสามารถในการฟื้นพลังกายให้ได้) และจากการที่ตัวของเขาใหญ่มาก จึงทำให้มองเห็นตัวฉากได้ไม่ดีนัก (แบบว่า บังมุมมองนะ เพราะใหญ่เกิน 555 ^o^)
ข้อดี :
- หากคิดจะตั้งการ์ด ให้ฟื้นพลังกาย จะใช้ได้ไม่ดี ในการแข่งแบบ “ตัวต่อตัว” แต่จะสามารถแสดงพลังได้อย่างเต็มที่ในการเล่นแบบ “ปาร์ตี้” นะครับ
- เนื่องจากตัวของเขา มีความทนทรหดพอๆกันกับ เมคานิคก้า จึงสามารถใช้การซัดหมัดเข้าแลกได้
- การจับทุ่มของเขา มี “ความรุนแรงเป็นอันดับหนึ่ง”เลยทีเดียว แบบว่า โดนทีลดฮวบฮาบเลย555 ^o^
ข้อเสีย :
- จากการที่ต้องตั้งการ์ดกัน เพื่อหาจังหวะเข้าตีอย่างหนักหน่วง จึงต้องพึ่งฝีมือการบังคับและการมองจังหวะให้ดีๆ
- อนึ่ง หากคิดจะตั้งการ์ด เพื่อให้พลังกายฟื้นคืน อาจถูกคู่ต่อสู้เข้าจับทุ่มในจังหวะดังกล่าวได้ แต่ก็สามารถใช้ “เคาเตอร์” สวนกลับในจังหวะเดียวกันได้ (ถือเป็น ท่าทีเด็ดของนายมอมมี่นี่เลย) เพียงแต่ การจับทุ่มในระยะใกล้และไกลของศัตรู จะใช้”เคาเตอร์” ต้านทานได้ยาก (จับจังหวะลำบาก) หากคิดจะตั้งการ์ดกันเมื่อไร ต้องมองลู่ทางและจังหวะให้ดีๆ
* อนึ่ง เทคนิคและข้อมูลเหล่านี้ สามารถใช้กับแพ็ทช์เวอร์ชั่น 1.1.0 ได้ แต่ถ้ามีการอัพเดทแพ็ทช์ใหม่เมื่อไร ก็ต้องมาดูว่า จะมีการเปลี่ยน ความสมดุลเกม หรือ ความสามารถของตัวละครด้วยหรือเปล่านะครับ